วันอาสาฬหบูชา หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญเดือนอาสาฬหะ หรือเดือน 8 เนื่องในโอกาสคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศานาเป็นครั้งแรก โดยแสดงปฐมเทศนา คือ ธัมมจักกัปปวัตนสูตร เป็นผลให้เกิดมีพระสาวกรูปแรกขึ้นในพระพุทธศาสนาจนถือได้ว่า เป็นวันแรกที่มีพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ครบเป็นองค์พระรัตนตรัย
พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา (เทศน์กัณฑ์แรก) เนื้อหาว่าด้วยทางสายกลาง (มัชฌิมาปฏิทา) ที่นำไปสู่การบรรลุนิพพาน ฤาษีโกณฑัญญะ ได้บรรลุโสดาปัตติผล แล้วทูลขอบวชเป็นพระสาวกรูปแรกที่เป็นประจักษ์พยานในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในบรรดาประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาที่ประกาศให้มีวันอาสาฬหบูชา และถือปฏิบัติมาจนกระทั่งปัจจุบัน
|
|
 | ||
 Admin |
| |
ผู้ตั้งกระทู้ Admin  :: วันที่ลงประกาศ 2012-05-07 20:13:16 | ||
| 1 2 3 4 › » |
ความคิดเห็นที่ 166 (3656262) | |
นางสาว ภัสภา เดโชศิรหิรัญ | 1522/14 ซ.วัดจอมสุดาราม ถ.นครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 วันที่ 22 กรกฎาคม พศ 2557 เรียน อาจารย์ที่ปรึกษา เรื่อง การลาป่วย เนื่องจากดิฉัน นางสาว ภัสภา เดโชศิรหิรัญ รหัสประจำตัวนักศึกษา 5712000465 นักศึกษาเทียบโอน มะกอกกลางสวน ป่วยเป็นอาหารเป็นพิษ เนื่องจากลำไส้อักเสบ มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เพลีย ไม่มีแรง ทำให่ไม่สามารถมาเรียนได้จึงขอลาหยุดตั้งแต่ วันที่22 กรกฎาคม พศ 2557 จนถึง วันที่25กรกฎาคม2557 เป็นเวลา3วัน จึงเรียนมาเพื่อใคร่ขออนุญาตหยุดเรียนในวันดังกล่าว ขอรับรองว่าเป็นจริง. ด้วยความเคารพอย่างสูง นางสาว ภิญญา เดโชศิรหิรัญ. นางสาว ภัสดา เดโชศิรหิรัญ (ผู้ปกครอง) |
ผู้แสดงความคิดเห็น นางสาว ภัสภา เดโชศิรหิรัญ วันที่ตอบ 2014-07-21 19:48:32 | |
ความคิดเห็นที่ 165 (3656259) | |
นางสาว ภัสภา เดโชศิรหิรัญ |
วันเข้าพรรษา วันเข้าพรรษา ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำเดือน ๘ ซึ่งเป็นวันที่บ่งบอกถึงฤดูฝน ตามพระพุทธบัญญัติว่า เมื่อถึงวันเข้าพรรษาพระสงฆ์ต้องเข้าจำพรรษา ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่งที่ทรงอนุญาตให้เข้าอาศัยอยู่ได้ โดยไม่ผิดกฎที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามมิให้อยู่จำพรรษาในสถานที่อันไม่สมควร เช่น ในโลงผี ในที่กลางแจ้ง ในกลด หรือแม้กระทั่ง ในตุ่ม ดังนั้น พระสงฆ์ต้องประพฤติปฎิบัติตามกิจของสงฆ์ คือก่อนที่ถึงวันเข้าพรรษา พระสงฆ์ ควรทำความสะอาดตามเสนาสนะสำหรับอยู่จำพรรษา รวมถึง พระอุโบสถ และอื่นๆ โดยพระสงฆ์จะต้องประกอบพิธีอธิษฐานพรรษา คือการตั้งอธิษฐานใจของตนเองว่าตลอดฤดูกาลเข้าพรรษานี้ จะไม่ไปไหน ด้วยการเปล่งวาจาว่า “ข้าพเจ้าจะอยู่จำพรรษาในที่อาวาสนี้ตลอด ๓ เดือน” เริ่มตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำเดือน ๘ (ประมาณเดือนกรกฎาคม) ไปจนถึง วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ (ประมาณเดือนตุลาคม) หลังจากเสร็จพิธีแล้ว พระสงฆ์ก็จะนำดอกไม้ ธูปเทียนไปขอขมาพระอุปัชฌาย์อาจารย์ และพระเถระผู้ที่ตนเองนับถือ กิจวัตรของพระภิกษุในช่วงวันเข้าพรรษา ในช่วงเข้าพรรษา กิจวัตรของพระภิกษุจะคล้ายกับวันออกพรรษา เพียงแต่พระภิกษุสงฆ์จะต้องไม่ออกไปนอกพื้นที่ พระภิกษุสงฆ์ที่มีพรรษามากกว่า จะทำหน้าที่เป็นครูบาอาจารย์ ใครถนัดด้านวิชาใด ก็สั่งสอนเผยแพร่แก่พระภิกษุสงฆ์ที่พรรษาน้อยกว่า ช่วงวันเข้าพรรษานี้จึงจะทำให้พระภิกษุสงฆ์มีโอกาสได้ศึกษาพระไตรปิฏกมากยิ่งขึ้น ประเพณีที่นิยมในวันเข้าพรรษา ประเพณีการหล่อเทียนพรรษา (วันเข้าพรรษา) นัดว่าเป็นประเพณีที่ปฏิบัติทำกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล มูลเหตุที่ต้องมีการหล่อเทียนเข้าพรรษานั้นเนื่องมาจากในฤดูฝน หรือเรียกว่า “ฤดูการเข้าพรรษา” พระสงฆ์ต้องจำพรรษาสวดมนต์ทำวัตรทุกเช้าค่ำ ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องใช้เทียนไว้สำหรับ จุดบูชาให้ตลอดพรรษา พุทธศาสนิกชนจึงพร้อมใจกันหล่อพรรษา เพื่อนำไปถวายแก่พระสงฆ์ไว้จุดบูชา ทำกิจของสงฆ์ตลอด ๓ เดือน จึงเรียกเทียนที่หล่อขึ้นมานี้ว่า “เทียนพรรษา” หรือ “เทียนจำนำพรรษา” |
ผู้แสดงความคิดเห็น นางสาว ภัสภา เดโชศิรหิรัญ วันที่ตอบ 2014-07-21 19:21:36 | |
ความคิดเห็นที่ 164 (3655924) | |
นงเยาว์ นามรักษ์ | ประวัติวันเข้าพรรษา การเข้าพรรษา เป็นพระพุทธบัญญัติซึ่งพระภิกษุทุกรูปจะต้องปฏิบัติตาม หมายถึงการอธิฐานอยู่ประจำที่ไม่เที่ยวจาริกไปยังสถานที่ต่างๆ เว้นแต่มีกิจ จำเป็นจริงๆ ช่วงจำพรรษาจะอยู่ในช่วงฤดูฝนคือแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ถึง ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ของทุกปี ดังนั้นวันเข้าพรรษา เป็นวันที่พระภิษุในพุทธศาสนาอธิฐานอยู่ประจำที่ไม่จาริกไปค้างแรมในสถานที่ต่างๆเว้นแต่มีกิจจำเป็น เป็นระยะเวลา ๓ เดือนในฤดูฝน
|
ผู้แสดงความคิดเห็น นงเยาว์ นามรักษ์ วันที่ตอบ 2014-07-20 15:45:03 | |
ความคิดเห็นที่ 163 (3655385) | |
นายบุญญาชัย สุขนุ่ม รหัส น.ศ. 5622 00068 3 | วันเข้าพรรษา วันเข้าพรรษา ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำเดือน ๘ ซึ่งเป็นวันที่บ่งบอกถึงฤดูฝน ตามพระพุทธบัญญัติว่า เมื่อถึงวันเข้าพรรษาพระสงฆ์ต้องเข้าจำพรรษา ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่งที่ทรงอนุญาตให้เข้าอาศัยอยู่ได้ โดยไม่ผิดกฎที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามมิให้อยู่จำพรรษาในสถานที่อันไม่สมควร เช่น ในโลงผี ในที่กลางแจ้ง ในกลด หรือแม้กระทั่ง ในตุ่ม ดังนั้น พระสงฆ์ต้องประพฤติปฎิบัติตามกิจของสงฆ์ คือก่อนที่ถึงวันเข้าพรรษา พระสงฆ์ ควรทำความสะอาดตามเสนาสนะสำหรับอยู่จำพรรษา รวมถึง พระอุโบสถ และอื่นๆ โดยพระสงฆ์จะต้องประกอบพิธีอธิษฐานพรรษา คือการตั้งอธิษฐานใจของตนเองว่าตลอดฤดูกาลเข้าพรรษานี้ จะไม่ไปไหน ด้วยการเปล่งวาจาว่า “ข้าพเจ้าจะอยู่จำพรรษาในที่อาวาสนี้ตลอด ๓ เดือน” เริ่มตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำเดือน ๘ (ประมาณเดือนกรกฎาคม) ไปจนถึง วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ (ประมาณเดือนตุลาคม) หลังจากเสร็จพิธีแล้ว พระสงฆ์ก็จะนำดอกไม้ ธูปเทียนไปขอขมาพระอุปัชฌาย์อาจารย์ และพระเถระผู้ที่ตนเองนับถือ กิจวัตรของพระภิกษุในช่วงวันเข้าพรรษา ในช่วงเข้าพรรษา กิจวัตรของพระภิกษุจะคล้ายกับวันออกพรรษา เพียงแต่พระภิกษุสงฆ์จะต้องไม่ออกไปนอกพื้นที่ พระภิกษุสงฆ์ที่มีพรรษามากกว่า จะทำหน้าที่เป็นครูบาอาจารย์ ใครถนัดด้านวิชาใด ก็สั่งสอนเผยแพร่แก่พระภิกษุสงฆ์ที่พรรษาน้อยกว่า ช่วงวันเข้าพรรษานี้จึงจะทำให้พระภิกษุสงฆ์มีโอกาสได้ศึกษาพระไตรปิฏกมากยิ่งขึ้น ประเพณีที่นิยมในวันเข้าพรรษา ประเพณีการหล่อเทียนพรรษา (วันเข้าพรรษา) นัดว่าเป็นประเพณีที่ปฏิบัติทำกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล มูลเหตุที่ต้องมีการหล่อเทียนเข้าพรรษานั้นเนื่องมาจากในฤดูฝน หรือเรียกว่า “ฤดูการเข้าพรรษา” พระสงฆ์ต้องจำพรรษาสวดมนต์ทำวัตรทุกเช้าค่ำ ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องใช้เทียนไว้สำหรับ จุดบูชาให้ตลอดพรรษา พุทธศาสนิกชนจึงพร้อมใจกันหล่อพรรษา เพื่อนำไปถวายแก่พระสงฆ์ไว้จุดบูชา ทำกิจของสงฆ์ตลอด ๓ เดือน จึงเรียกเทียนที่หล่อขึ้นมานี้ว่า “เทียนพรรษา” หรือ “เทียนจำนำพรรษา” อานิสงฆ์การถวายเทียนพรรษา ทำให้เกิดสติ ปัญา ทั้งชาตินี้และชาติหน้า เปรียบดั่งแสงสว่างแห่งเทียน ทำให้เจริญไปด้วยมิตรสหายบริวาร ย่อมเป็นที่รักใคร่ของมนุษย์ และเทวดาทั้งหลาย ทำให้คลี่คลายเรื่องราวปัญหาต่างๆ จากร้ายกลายเป็นดี ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ผ้าจำนำพรรษา คือ ผ้าที่ทายกถวายแก่พระสงฆ์ ผู้อยู่จำพรรษาครบแล้วในวัดนั้น ที่นั้น ภายในเขตจีวรกาล เรียกอีกอย่างว่า “ผ้าวัสสาวาสิกสาฎิกา” ผ้าอาบน้ำฝน คือ ผ้าที่สำหรับอธิษฐานไว้ใช้นุ่งอาบน้ำฝนตลอดเดือนแห่งฤดูฝน เรียกอีกอย่างว่า “ผ้าวัสสิกสาฏิกา” คำถวายเทียนพรรษา บทสวดถวายเทียนพรรษา ภาษาบาลี ยคฺเฆ ภนฺเต สงฺโฆ ปฏิชานาตุ มยํ ภนฺเต เอต ปทีปยุตํ สปริวารํ เตมาสํ พุทฺธสฺส ปูชนตฺถาย อิมัสฺมิงฺ อุโปสถาคาเร นิยฺยาเทม อยํ เตมาสํ พุทฺธสฺส ปูชนตฺถาย ปทีปยุคสฺส ทานสฺส อนิสํโส อมฺหากญฺเจว มาตาปิตุอาทีนญฺจ ปิยชนานํ ฑีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย สํวตฺตตุ ฯ บทสวดถวายเทียนพรรษา ภาษาไทย ยัค เฆ ภันเต สังโฆ ปะฏิชานาตุ มะยัง ภันเต เอตัง ปะทีปะยุตัง สะปะริวารัง เตมาสัง พุทธัสสะ ปูชะนัตถายะ อิมัสมิง อุโปสะถาคาเร นิยยาเทมะ อะยัง เตมาสัง พุทธัสสะ ปูชะนัตถายะ ปะทีปะยุคัสสะ ทานัสสะ อะนิสังโส อัมหากัญเจวะ มาตาปิตุอาทีนัญจะ ปิยะชะนานัง ฑีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ สังวัตตะตุ ฯ คำแปล ข้า แต่ท่านผู้เจริญ ขอพระสงฆ์จงรับทราบ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายเทียนคู่นี้ พร้อมกับของบริวาร ไว้ ณ พระอุโบสถนี้ เพื่อเป็นพุทธบูชาตลอดพรรษา ขออนิสสงส์แห่งการถวายคู่เทียน เพื่อเป็นพุทธบูชาตลอดพรรษานี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย จงเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วย แก่ปิยชนทั้งหลาย มีมารดาบิดาเป็นต้นด้วย ตลอดกาลนาน เทอญ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น นายบุญญาชัย สุขนุ่ม รหัส น.ศ. 5622 00068 3 วันที่ตอบ 2014-07-17 21:49:08 | |
ความคิดเห็นที่ 162 (3655384) | |
นายบุญญาชัย สุขนุ่ม รหัส น.ศ. 5622 00068 3 | วันอาสาฬหบูชา วันอาสาฬหบูชา หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ วันอาสาฬหบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก โดยการแสดงปฐมเทศนาโปรดพระปัญจวัคคีย์ ทั้ง ๕ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันจนพระอัญญาโกณฑัญญะได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา จึงถือว่าวันนี้เป็นวันแรกที่มีพระสงฆ์เกิดขึ้นครบองค์พระรัตนตรัย วันอาสาฬหบูชา เป็นวันที่สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้แสดง พระปฐมเทศนา หรือการแสดงพระธรรมครั้งแรก หลังจากที่ตรัสรู้ได้ ๒ เดือน เป็นวันที่เริ่มประดิษฐานพระพุทธศาสนาเนื่องจากมีองค์ประกอบของ พระรัตนตรัยครบถ้วน คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี ในวันเพ็ญ (ขึ้น ๑๕ ค่ำ) เดือน ๘ ดวงจันทร์ เสวยมาฆฤกษ์ การแสดงพระปฐมเทศนาในวันอาสาฬหบูชา นี้ทรงได้แสดงแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี ปัจจุบันคือสารนาถ เมืองพาราณสี พระธรรมที่แสดงคือ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เมื่อเทศนาจบ พระโกณฑัญญะ หนึ่งในปัญจวัคคีย์ ผู้ประกอบด้วย พระโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานาม และพระอัสสชิ ก็ได้ดวงตาเห็นธรรม มีความเห็นแจ้งชัดว่า ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพนฺตํ นิโรธธมฺมนฺติ สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งใดสิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา เมื่อได้ดวงตาเห็นธรรมจึงขออุปสมบทเป็น พระภิกษุในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าก็ประทานอุปสมบทให้ ด้วยวิธีที่เรียกว่า เอหิภิกขุอุปสัมปทา โดยกล่าวคำว่า เธอจงเป็นภิกษุมาเกิด พระโกณฑัญญะจึงเป็น พระอริยสงฆ์องค์แรก คำว่า “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” แปลว่าสูตรของการหมุนวงล้อแห่งพระธรรมให้เป็นไปมีความโดยย่อว่า ที่สุด ๒ อย่างที่บรรพชิตไม่ควรประพฤติปฏิบัติคือ การประกอบตนให้อยู่ในความสุขด้วยกาม ซึ่งเป็นธรรมอันเลวเป็นของชาวบ้าน เป็นของปุถุชน ไม่ใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ที่สุดอีกทางหนึ่งคือ การประกอบการทรมานตนให้เกิดความลำบาก ไม่ใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ การดำเนินตามทางสายกลาง ไม่เข้าไปใกล้ที่สุดทั้งสองอย่างนั้น เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ทำดวงตาและญาณให้เกิด เป็นไปเพื่อความสงบระงับ ความรู้ยิ่ง ความตรัสรู้ และนิพพาน ทางสายกลาง ได้แก่ อริยมรรค มีองค์แปด คือ ปัญญาอันเห็นชอบ ดำริห์ชอบ เจรจาชอบ การงานชอบ เลี้ยงชีพชอบ พยายามชอบ ระลึกชอบ และตั้งใจชอบ อริยสัจสี่ คือความจริงอันประเสริฐที่พระองค์ค้นพบ มี ๔ ประการได้แก่ อริยสัจ ๘ อริยสัจ ๔ แปลว่า ความจริงอันประเสริฐของอริยะ ซึ่งคือ บุคคลที่ห่างไกลจากกิเลศทั้งปวง ได้แก่ ๑. ทุกข์ ได้แก่ ปัญหาทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ จักต้องกำหนดรู้ให้เท่าทันในความจริง ต้องยอมรับรู้ กล้าสู้ปัญหา กล้าเผชิญหน้า ต้องเข้าใจในสภาวะโลกในทุกสิ่งนั้นไม่เที่ยง มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ๒. สมุทัย ได้แก่ เหตุเกิดแห่งทุกข์ หมายถึงสาเหตุของปัญหาที่ทำให้เกิดทุกข์ เพราะเป็นต้นเหตุสำคัญในการเกิดทุกข์ ที่จะเชื่อมโยงกับปัจจัยอื่นๆ ๓. นิโรธ ได้แก่ การดับทุกข์ การอยู่อย่างรู้เท่าทัน การดำเนินชีวิตด้วยการใช้ปัญญา การไม่มีทุกข์ การไม่ข้องเกี่ยวในกิเลศ ๔. มรรค ได้แก่ หนทางในการแก้ไขปัญหา ในการดับทุกข์ ซึ่งมีองค์ประกอบทั้ง 8 ประการ มรรค ๘ ๑. สัมมาทิฏฐิ คือ มีปัญญาเห็นชอบ หมายถึง ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมตามความเป็นจริงด้วยสติและปัญญา ๒. สัมมาสังกัปปะ คือ ดำริชอบ หมายถึง การใช้สมองความคิดพิจารณาแต่ในทางกุศลหรือความดีงาม ไม่หลุมหลงมัวเมาในสิ่งไม่ดี ๓. สัมมาวาจา คือ เจรจาชอบ หมายถึง การพูดต้องสุภาพ แต่ในสิ่งที่สร้างสรรค์ดีงาม ไม่พูดเพ้อเจ้อไร้สาระ ๔. สัมมากัมมันตะ คือ ความประพฤติชอบ หมายถึง การประพฤติดีงาม อยู่ในทำนองคลองธรรม ๕. สัมมาอาชีวะ คือการมีอาชีพชอบ หมายถึง การทำมาหากินอย่างสุจริตชน ไม่คดโกง ไม่เอาเปรียบหรือเบียดเบียนผู้อื่น ๖. สัมมาวายามะ คือ การมีความมานะชอบ หมายถึง ความอุตสาหะพยายาม มีความอดทนต่อการปฏิบัติงานใดๆ ๗. สัมมาสติ คือ การมีสติชอบ หมายถึง การมีสติ ใช้สติอยู่ตลอดเวลา ไม่ทำจิตให้เลื่อนลอย ดำรงอยู่ด้วยความรู้ตัวอยู่เป็นปกติ ๘. สัมมาสมาธิ คือ การมีสมาธิชอบ หมายถึง การฝึกจิตให้สงบและตั้งมั่น เพื่อให้ปราศจากกิเลสและนิวรณ์อยู่เสมอ ดวงตา ญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่าง ได้เกิดขึ้นแก่พระองค์ว่า นี้เป็นทุกข์ อันควรกำหนดรู้ และพระองค์ ได้กำหนดรู้แล้ว นี้เป็นสาเหตุแห่งทุกข์ อันควรละ และพระองค์ ได้ละแล้ว นี้เป็นความดับทุกข์ อันควรทำให้แจ้ง และพระองค์ ได้ทำให้แจ้งแล้ว นี้เป็นหนทางดับทุกข์ อันควรเจริญ และพระองค์ ได้เจริญแล้ว สรุปได้ว่า ปัญญาอันรู้เห็นแจ้งชัดตามความเป็นจริงในอริยสัจ ๔ มีรอบ ๓ มีอาการ ๑๒ คือ ขั้นแรก รู้ว่า อริยสัจแต่ละอย่างนั้นเป็นอย่างไร ขั้นที่สองรู้ว่าควรจะทำอย่างไรในอริยสัจแต่ละประการนั้น และขั้นที่ ๓ พระองค์ได้ กระทำตามนั้นสำเร็จเสร็จแล้ว วันอาสาฬหบูชา พระองค์ทรงเน้นว่า จากการที่พระองค์ทรงค้นพบ คือตรัสรู้อริยสัจ ๔ ประการนี้ การที่พระองค์ทรงกล้าปฏิญญา ว่าเป็นผู้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะพระองค์ได้รู้เห็นแจ้งชัดตามความเป็นจริง ในอริยสัจ ๔ มี รอบ ๓ มีอาการ ๑๒ อย่างหมดจดดีแล้ว เมื่อ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศพระธรรมจักร ให้เป็นไปแล้ว ได้มีการบันลือต่อ ๆ กันไปให้ทราบทั่วกันว่า พระธรรมอันยอดเยี่ยมที่พระองค์ทรงประกาศให้เป็นไปแล้ว ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เขตเมืองพาราณสี อันใคร ๆ ในโลกจะปฏิวัติไม่ได้ วันอาสาฬหบูชา มีเหตุการณ์สำคัญในทางพระพุทธศาสนาอยู่ ๓ ประการคือ ๑. เป็นวันแรกที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระศาสนา โดยทางแสดงพระปฐมเทศนา คือ ธรรมจักกัปปวัตนสูตร ประกาศสัจธรรมอันเป็นองค์แห่งพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณที่พระองค์ตรัสรู้ ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ สรรพสัตว์ทั้งหลาย ๒. เป็นวันแรกที่บังเกิดพระอริยสงฆ์สาวกขึ้นในโลก คือ พระโกณฑัญญะ เมื่อได้ฟังพระปฐมเทศนาจบ ได้ดวงตาเห็นธรรม ได้ทูลขออุปสมบท และพระพุทธเจ้าได้ประทานอุปสมบทให้ด้วยวิธีเอหิภิกษุอุปสัมปทา ในวันนั้นวันอาสาฬหบูชา ๓. เป็นวันแรกที่บังเกิดพระรัตนตรัย คือ พระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตน และพระสังฆรัตนะ ขึ้นในโลกอย่างสมบูรณ์บริบูรณ์ กิจกรรมในวันอาสาฬหบูชา โดยทั่วไปจะนิยมทำบุญ ตักบาตร เข้าวัดฟังธรรม รักษาศีล และสวดมนต์ ร่วมกันในตอนค่ำในวัดต่างๆ ซึ่งจะมีการจัดพิธีสวดมนต์ เวียนเทียนร่วมกัน โดยถือเป็นการสืบทอดขนบธรรมเนียมประเพณีของเราชาวพุทธ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระคุณพระรัตนตรัย อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างจิตใจให้เราดำเนินชีวิตไปอย่างมีความสุขอีกด้วย
|
ผู้แสดงความคิดเห็น นายบุญญาชัย สุขนุ่ม รหัส น.ศ. 5622 00068 3 วันที่ตอบ 2014-07-17 21:44:12 | |
ความคิดเห็นที่ 161 (3654938) | |
เฉลิมเกียรติ รักขภูมิพันธ์ |
วันเข้าพรรษา เรื่องความเป็นมาของการเข้าพรรษา ถ้าว่ากันตามประวัติย่อๆ คือ ในยุคต้นพุทธกาลยังไม่มีการเข้าพรรษา เพราะฉะนั้นตลอดทั้งปี เมื่อพระภิกษุมีความเห็นว่า ท่านควรจะไปเทศน์ไปสอนญาติโยมที่ไหนได้ เมื่อท่านพอจะมีเวลา ท่านก็จะไป หรือแม้ไม่ได้ไปเทศน์ไปสอนใคร ถ้าเห็นว่าที่ไหนเงียบสงัดดี เหมาะในการที่จะไปบำเพ็ญภาวนา ทำสมาธิ ท่านก็จะไป ซึ่งแน่นอนว่าส่วนมากก็จะอยู่ในเขตที่เป็นป่าเป็นเขา ห่างไกลออกไปจากตัวเมือง บ้างก็ต้องเดินผ่านไปในชนบท เนื่องจากในฤดูฝน ชาวบ้านต่างทำไร่ทำนากันอยู่ จากการที่ท่านต้องไปอย่างนี้ บางครั้งข้าวกล้าของพวกเขาก็เพิ่งหว่านไปในนา มันเพิ่งจะงอกออกมาใหม่ๆ บางทีก็ดูเหมือนหญ้า พระภิกษุเดินผ่านไปนึกว่าเป็นดงหญ้า จึงกลายเป็นเดินไปย่ำข้าวกล้าของชาวบ้านไปเสีย ซึ่งทำให้พวกเขาเดือดร้อน ชาวบ้านเหล่านั้นจึงพากันมาฟ้องพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า พระภิกษุไปย่ำข้าวที่พวกเขาปลูกเอาไว้ แม้นกกาในช่วงฤดูฝนยังอยู่กับรัง ทำไมพระภิกษุจึงไม่พักบ้าง เพื่อตัดปัญหานี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงกำหนดว่า เมื่อถึงช่วงเข้าพรรษา (ฤดูฝน) ให้พระภิกษุอยู่กับที่ ไม่เดินทางไปทำภาวนาที่ไหน ไม่ไปเทศน์โปรดใครที่ไหน หากใครต้องการให้โปรดก็ให้มาที่วัด ให้เขามาหาท่าน ไม่ใช่ให้ท่านไปหาเขา แต่อีกมุมมองหนึ่ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงถือโอกาสนี้ เปลี่ยนคำครหาให้กลายเป็นโอกาสดีของพระภิกษุ กล่าวคือ การกำหนดให้พระภิกษุอยู่เป็นที่ในวัดวาอาราม ก็เพื่อที่จะให้พระใหม่ได้รับการอบรมจากพระเก่าได้เต็มที่ เพราะว่าในความเป็นจริงแล้ว ในการอบรมถ่ายทอดธรรมะ, ถ่ายทอดธรรมวินัยให้แก่กันและกันนั้น ถ้าทำเป็นที่เป็นทางอย่างต่อเนื่องกันทุกวันเช่นนี้ จะเป็นการดี การศึกษาธรรมะอย่างต่อเนื่องมีผลดี เพราะฉะนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงกำหนดให้พระภิกษุอยู่กับที่ในช่วงเข้าพรรษา พระใหม่ก็จะได้ศึกษาหรือรับการถ่ายทอดธรรมะจากพระเก่า ส่วนพระเก่านอกจากจะทำหน้าที่เป็นครูบาอาจารย์สอนพระใหม่แล้ว ท่านยังกำหนดแผนการว่า เมื่อออกพรรษาแล้วควรจะเดินทางไปโปรดที่ไหน, วางแผนปรับปรุงหลักสูตรวิธีการเทศน์, การสอน, การอบรมให้เหมาะกับท้องถิ่น ให้เหมาะกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป เป็นต้น ดังนั้น การเข้าพรรษา จึงเป็นการดีทั้งชาวบ้าน ดีทั้งพระเก่า พระใหม่ ไปในตัว อย่างที่กล่าวมาแล้ว |
ผู้แสดงความคิดเห็น เฉลิมเกียรติ รักขภูมิพันธ์ วันที่ตอบ 2014-07-16 21:58:39 | |
ความคิดเห็นที่ 160 (3654937) | |
เฉลิมเกียรติ รักขภูมิพันธ์ |
วันอาสาฬหบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก โดยการแสดงปฐมเทศนาโปรดพระปัญจวัคคีย์ ทั้ง ๕ (พระโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานาม และพระอัสสชิ) ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี(ปัจจุบันคือสารนาถ เมืองพาราณสี) พระธรรมที่แสดงคือ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร จนพระอัญญาโกณฑัญญะได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา จึงถือว่าวันนี้เป็นวันแรกที่มีพระสงฆ์เกิดขึ้นครบองค์พระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เฉลิมเกียรติ รักขภูมิพันธ์ วันที่ตอบ 2014-07-16 21:57:36 | |
ความคิดเห็นที่ 159 (3654546) | |
นาวสาว พัณณ์ธิดา มงคลวัฒน์บารมี |
ประวัติความเป็นมาวันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ วันอาสาฬหบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก โดยการแสดงปฐมเทศนาโปรดพระปัญจวัคคีย์ ทั้ง ๕ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันจนพระอัญญาโกณฑัญญะได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา จึงถือว่าวันนี้เป็นวันแรกที่มีพระสงฆ์เกิดขึ้นครบองค์พระรัตนตรัย
วันอาสาฬหบูชา เป็นวันที่สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้แสดง พระปฐมเทศนา หรือการแสดงพระธรรมครั้งแรก หลังจากที่ตรัสรู้ได้ ๒ เดือน เป็นวันที่เริ่มประดิษฐานพระพุทธศาสนาเนื่องจากมีองค์ประกอบของ พระรัตนตรัยครบถ้วน คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี ในวันเพ็ญ (ขึ้น ๑๕ ค่ำ) เดือน ๘ ดวงจันทร์ เสวยมาฆฤกษ์
การแสดงพระปฐมเทศนาในวันอาสาฬหบูชา นี้ทรงได้แสดงแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี ปัจจุบันคือสารนาถ เมืองพาราณสี พระธรรมที่แสดงคือ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เมื่อเทศนาจบ พระโกณฑัญญะ หนึ่งในปัญจวัคคีย์ ผู้ประกอบด้วย พระโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานาม และพระอัสสชิ ก็ได้ดวงตาเห็นธรรม
|
ผู้แสดงความคิดเห็น นาวสาว พัณณ์ธิดา มงคลวัฒน์บารมี วันที่ตอบ 2014-07-15 23:05:29 | |
ความคิดเห็นที่ 158 (3654544) | |
นาวสาว พัณณ์ธิดา มงคลวัฒน์บารมี | ประวัติวันเข้าพรรษา ประวัติวันเข้าพรรษา การเข้าพรรษา เป็นพุทธบัญญัติ ซึ่งพระภิกษุทุกรูปจะต้องปฏิบัติตาม หมายถึง การอธิษฐานอยู่ประจำที่ไม่เที่ยวจาริกไปยังสถานที่ต่างๆ เว้นแต่มีกิจจำเป็นจริง ๆช่วงจำพรรษาจะอยู่ในช่วงฤดูฝนคือแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ถึง ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ของทุกปี ดังนั้น วันเข้าพรรษา...
วันเข้าพรรษาวันเข้าพรรษา หมายถึง วันที่พระภิกษุในพระพุทธศาสนาอธิษฐานอยู่ประจำที่ ไม่จาริกไปค้างแรมตามสถานที่ต่างๆ เว้นแต่มีกิจจำเป็น เป็นระยะเวลา ๓ เดือนในฤดูฝน คือตั้งแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๑ ซึ่งวันเข้าพรรษาปีนี้ ตรงกับวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๕...
ถวายเทียน ผ้าอาบน้ำฝน กิจกรรมชาวพุทธในวันเข้าพรรษาการถวายเทียนเพื่อจุดตามประทีปเป็นพุทธบูชานั้น มาจากอานิสงส์การถวายเทียนเพื่อจุดเป็นพุทธบูชา ที่ปรากฏความในพระไตรปิฎกและในคัมภีร์อรรถกถา ว่าพระอนุรุทธะเถระ เคยถวายเทียนบูชาทำให้ได้รับอานิสงส์ม |
ผู้แสดงความคิดเห็น นาวสาว พัณณ์ธิดา มงคลวัฒน์บารมี วันที่ตอบ 2014-07-15 22:52:54 | |
ความคิดเห็นที่ 157 (3654517) | |
นายบุญญาชัย สุขนุ่ม รหัส น.ศ. 5622 00068 3 | 71/77 อาคาร 4 กองดุริยางค์ทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต แขวง สามเสนใน เขต พญาไท กรุงเทพฯ 10400 วันที่ 10 กรกฎาคม 2557 เรียน อาจารย์ที่ปรึกษา เรื่อง ขอลากิจ เนื่องจากกระผม นายบุญญาชัย สุขนุ่ม ต้องพาพ่อไปทำเอกสารเกี่ยวกับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลและบัตรประชาชนใบใหม่ กระผมจึงขออนุญาตลากิจโดยขอหยุดเรียน ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2557 หลังจากทำภารกิจเสร็จสิ้น กระผมจะมาเรียนในอาทิตย์ต่อไปตามปกติ จึงเรียนมาเพื่อกรุณาทราบ ด้วยความเคารพอย่างสูง นายบุญญาชัย สุขนุ่ม |
ผู้แสดงความคิดเห็น นายบุญญาชัย สุขนุ่ม รหัส น.ศ. 5622 00068 3 วันที่ตอบ 2014-07-15 20:56:44 | |
ความคิดเห็นที่ 156 (3653742) | |
อนนท์ แสงนวน |
ประวัติวันอาสาฬหบูชา
|
ผู้แสดงความคิดเห็น อนนท์ แสงนวน วันที่ตอบ 2014-07-14 10:04:50 | |
ความคิดเห็นที่ 155 (3653556) | |
น.ส. ธัญสุดา แก้วเข็มทอง | ประวัติวันเข้าพรรษา
"เข้าพรรษา" แปลว่า "พักฝน" หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่น ๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี เรียกว่า "ปุริมพรรษา" |
ผู้แสดงความคิดเห็น น.ส. ธัญสุดา แก้วเข็มทอง วันที่ตอบ 2014-07-12 20:58:34 | |
ความคิดเห็นที่ 154 (3653553) | |
น.ส. ธัญสุดา แก้วเข็มทอง |
ประวัติวันอาสาฬหบูชา
|
ผู้แสดงความคิดเห็น น.ส. ธัญสุดา แก้วเข็มทอง วันที่ตอบ 2014-07-12 20:43:01 | |
ความคิดเห็นที่ 153 (3653516) | |
นางสาว สุวรรณา จันทร์เจ๊ก | ประวัติความเป็นมาของวันเข้าพรรษา ในเรื่องความเป็นมาของการเข้าพรรษา ถ้าว่ากันตามประวัติย่อๆ คือ ในยุคต้นพุทธกาลยังไม่มีการเข้าพรรษา เพราะฉะนั้นตลอดทั้งปี เมื่อพระภิกษุมีความเห็นว่า ท่านควรจะไปเทศน์ไปสอนญาติโยมที่ไหนได้ เมื่อท่านพอจะมีเวลา ท่านก็จะไป หรือแม้ไม่ได้ไปเทศน์ไปสอนใคร ถ้าเห็นว่าที่ไหนเงียบสงัดดี เหมาะในการที่จะไปบำเพ็ญภาวนา ทำสมาธิ ท่านก็จะไป ซึ่งแน่นอนว่าส่วนมากก็จะอยู่ในเขตที่เป็นป่าเป็นเขา ห่างไกลออกไปจากตัวเมือง บ้างก็ต้องเดินผ่านไปในชนบท เนื่องจากในฤดูฝน ชาวบ้านต่างทำไร่ทำนากันอยู่ จากการที่ท่านต้องไปอย่างนี้ บางครั้งข้าวกล้าของพวกเขาก็เพิ่งหว่านไปในนา มันเพิ่งจะงอกออกมาใหม่ๆ บางทีก็ดูเหมือนหญ้า พระภิกษุเดินผ่านไปนึกว่าเป็นดงหญ้า จึงกลายเป็นเดินไปย่ำข้าวกล้าของชาวบ้านไปเสีย ซึ่งทำให้พวกเขาเดือดร้อน ชาวบ้านเหล่านั้นจึงพากันมาฟ้องพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า พระภิกษุไปย่ำข้าวที่พวกเขาปลูกเอาไว้ แม้นกกาในช่วงฤดูฝนยังอยู่กับรัง ทำไมพระภิกษุจึงไม่พักบ้าง
เพื่อตัดปัญหานี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงกำหนดว่า เมื่อถึงช่วงเข้าพรรษา (ฤดูฝน) ให้พระภิกษุอยู่กับที่ กล่าวคือ ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 จนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ให้พระภิกษุอยู่เป็นที่เป็นทาง ไม่เดินทางไปทำภาวนาที่ไหน ไม่ไปเทศน์โปรดใครที่ไหน หากใครต้องการให้โปรดก็ให้มาที่วัด ให้เขามาหาท่าน ไม่ใช่ให้ท่านไปหาเขา แต่อีกมุมมองหนึ่ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงถือโอกาสนี้ เปลี่ยนคำครหาให้กลายเป็นโอกาสดีของพระภิกษุ กล่าวคือ การกำหนดให้พระภิกษุอยู่เป็นที่ในวัดวาอาราม ก็เพื่อที่จะให้พระใหม่ได้รับการอบรมจากพระเก่าได้เต็มที่ เพราะว่าในความเป็นจริงแล้ว ในการอบรมถ่ายทอดธรรมะ, ถ่ายทอดธรรมวินัยให้แก่กันและกันนั้น ถ้าทำเป็นที่เป็นทางอย่างต่อเนื่องกันทุกวันเช่นนี้ จะเป็นการดี การศึกษาธรรมะอย่างต่อเนื่องมีผลดี เพราะฉะนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงกำหนดให้พระภิกษุอยู่กับที่ในช่วงเข้าพรรษา พระใหม่ก็จะได้ศึกษาหรือรับการถ่ายทอดธรรมะจากพระเก่า ส่วนพระเก่านอกจากจะทำหน้าที่เป็นครูบาอาจารย์สอนพระใหม่แล้ว ท่านยังกำหนดแผนการว่า เมื่อออกพรรษาแล้วควรจะเดินทางไปโปรดที่ไหน, วางแผนปรับปรุงหลักสูตรวิธีการเทศน์, การสอน, การอบรมให้เหมาะกับท้องถิ่น ให้เหมาะกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป เป็นต้น ดังนั้น การเข้าพรรษา จึงเป็นการดีทั้งชาวบ้าน ดีทั้งพระเก่า พระใหม่ ไปในตัว อย่างที่กล่าวมาแล้ว
|
ผู้แสดงความคิดเห็น นางสาว สุวรรณา จันทร์เจ๊ก วันที่ตอบ 2014-07-12 12:11:14 | |
ความคิดเห็นที่ 152 (3653515) | |
นางสาว สุวรรณา จันทร์เจ๊ก | ประวัติความเป็นมาวันอาสาฬหบูชา วันอาสาฬหบูชา คือวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้ได้ 2 เดือน โดยแสดงปฐมเทศนาโปรดพระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ได้แก่ พระโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นมคธ จนพระอัญญาโกณฑัญญะ ได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา จึงถือว่าวันนี้มีพระรัตนตรัยครบองค์สามบริบูรณ์ครั้งแรกในโลก คือ มีทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนพุทธศักราช 45 ปี
วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 เป็นวันที่มีพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ครบเป็นองค์รัตนตรัยครั้งแรกในโลก ซึ่งพระสงฆ์องค์แรกคือ พระอัญญาโกณฑัญญะ และปฐมเทศนาที่ทรงแสดงคือ ธรรมจักกัปวัตนสูตร หมายถึง พระสูตรว่าด้วยการยังธรรมจักรให้เป็นไป นั่นคือ ธรรมะของพระพุทธองค์เหมือนวงล้อธรรมที่ได้เริ่มเคลื่อนแล้วจากจุดเริ่มต้นในวันนี้
สำหรับพุทธศาสนิกชนทุกคน คงทราบกันดีกว่า ทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี จะตรงกับวันสำคัญทางพุทธศาสนาอีกหนึ่งวัน นั่นคือ "วันอาสาฬหบูชา" ซึ่งในปี 2557 นี้ วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันศุกร์ ที่ 11 กรกฎาคม (ขึ้น 15 คํ่า เดือน 8)
ทั้งนี้ คำว่า "อาสาฬหบูชา" สามารถอ่านได้ 2 แบบ คือ อา-สาน-หะ-บู-ชา หรือ อา-สาน-ละ-หะ-บู-ชา ซึ่งจะประกอบด้วยคำ 2 คำ คือ อาสาฬห ที่แปลว่า เดือน 8 ทางจันทรคติ กับคำว่า บูชา ที่แปลว่า การบูชา เมื่อนำมารวมกันจึงแปลว่า การบูชาในเดือน 8 หรือการบูชาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในเดือน 8
พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 เรียกว่า "ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร" แปลว่า พระสูตรแห่งการหมุนวงล้อธรรม ซึ่งหลังจากปฐมเทศนา หรือเทศนากัณฑ์แรกที่พระองค์ทรงแสดงจบลง พระอัญญาโกณฑัญญะก็ได้ดวงตาเห็นธรรม สำเร็จเป็นพระโสดาบัน จึงขออุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าก็ได้ประทานอุปสมบทให้ด้วยวิธีที่เรียกว่า "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" พระโกณฑัญญะจึงได้เป็น พระอริยสงฆ์องค์แรกในพระพุทธศาสนา ต่อมา พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ ก็ได้ดวงตาเห็นธรรม และได้อุปสมบทตามลำดับ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น นางสาว สุวรรณา จันทร์เจ๊ก วันที่ตอบ 2014-07-12 12:02:56 | |
ความคิดเห็นที่ 151 (3653441) | |
สมพงษ์ ปานด้วง |
ความเป็นมาของวันเข้าพรรษาในเรื่องความเป็นมาของการเข้าพรรษา ถ้าว่ากันตามประวัติย่อๆ คือ ในยุคต้นพุทธกาลยังไม่มีการเข้าพรรษา เพราะฉะนั้นตลอดทั้งปี เมื่อพระภิกษุมีความเห็นว่า ท่านควรจะไปเทศน์ไปสอนญาติโยมที่ไหนได้ เมื่อท่านพอจะมีเวลา ท่านก็จะไป หรือแม้ไม่ได้ไปเทศน์ไปสอนใคร ถ้าเห็นว่าที่ไหนเงียบสงัดดี เหมาะในการที่จะไปบำเพ็ญภาวนา ทำสมาธิ ท่านก็จะไป ซึ่งแน่นอนว่าส่วนมากก็จะอยู่ในเขตที่เป็นป่าเป็นเขา ห่างไกลออกไปจากตัวเมือง บ้างก็ต้องเดินผ่านไปในชนบท เนื่องจากในฤดูฝน ชาวบ้านต่างทำไร่ทำนากันอยู่ จากการที่ท่านต้องไปอย่างนี้ บางครั้งข้าวกล้าของพวกเขาก็เพิ่งหว่านไปในนา มันเพิ่งจะงอกออกมาใหม่ๆ บางทีก็ดูเหมือนหญ้า พระภิกษุเดินผ่านไปนึกว่าเป็นดงหญ้า จึงกลายเป็นเดินไปย่ำข้าวกล้าของชาวบ้านไปเสีย ซึ่งทำให้พวกเขาเดือดร้อน ชาวบ้านเหล่านั้นจึงพากันมาฟ้องพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า พระภิกษุไปย่ำข้าวที่พวกเขาปลูกเอาไว้ แม้นกกาในช่วงฤดูฝนยังอยู่กับรัง ทำไมพระภิกษุจึงไม่พักบ้าง เพื่อตัดปัญหานี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงกำหนดว่า เมื่อถึงช่วงเข้าพรรษา (ฤดูฝน) ให้พระภิกษุอยู่กับที่ กล่าวคือ ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 จนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ให้พระภิกษุอยู่เป็นที่เป็นทาง ไม่เดินทางไปทำภาวนาที่ไหน ไม่ไปเทศน์โปรดใครที่ไหน หากใครต้องการให้โปรดก็ให้มาที่วัด ให้เขามาหาท่าน ไม่ใช่ให้ท่านไปหาเขา แต่อีกมุมมองหนึ่ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงถือโอกาสนี้ เปลี่ยนคำครหาให้กลายเป็นโอกาสดีของพระภิกษุ กล่าวคือ การกำหนดให้พระภิกษุอยู่เป็นที่ในวัดวาอาราม ก็เพื่อที่จะให้พระใหม่ได้รับการอบรมจากพระเก่าได้เต็มที่ เพราะว่าในความเป็นจริงแล้ว ในการอบรมถ่ายทอดธรรมะ, ถ่ายทอดธรรมวินัยให้แก่กันและกันนั้น ถ้าทำเป็นที่เป็นทางอย่างต่อเนื่องกันทุกวันเช่นนี้ จะเป็นการดี การศึกษาธรรมะอย่างต่อเนื่องมีผลดี เพราะฉะนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงกำหนดให้พระภิกษุอยู่กับที่ในช่วงเข้าพรรษา พระใหม่ก็จะได้ศึกษาหรือรับการถ่ายทอดธรรมะจากพระเก่า ส่วนพระเก่านอกจากจะทำหน้าที่เป็นครูบาอาจารย์สอนพระใหม่แล้ว ท่านยังกำหนดแผนการว่า เมื่อออกพรรษาแล้วควรจะเดินทางไปโปรดที่ไหน, วางแผนปรับปรุงหลักสูตรวิธีการเทศน์, การสอน, การอบรมให้เหมาะกับท้องถิ่น ให้เหมาะกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป เป็นต้น ดังนั้น การเข้าพรรษา จึงเป็นการดีทั้งชาวบ้าน ดีทั้งพระเก่า พระใหม่ ไปในตัว อย่างที่กล่าวมาแล้ว |
ผู้แสดงความคิดเห็น สมพงษ์ ปานด้วง วันที่ตอบ 2014-07-11 18:16:01 | |
ความคิดเห็นที่ 150 (3653440) | |
สมพงษ์ ปานด้วง |
ความเป็นมาของวันอาสาฬหบูชา |
ผู้แสดงความคิดเห็น สมพงษ์ ปานด้วง วันที่ตอบ 2014-07-11 18:09:12 | |
ความคิดเห็นที่ 149 (3653437) | |
น.ส. ทัศน์ดาว หงมะณี |
ความเป็นมาของวันเข้าพรรษา
|
ผู้แสดงความคิดเห็น น.ส. ทัศน์ดาว หงมะณี (Tasdow2011-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-07-11 17:37:12 | |
ความคิดเห็นที่ 148 (3653434) | |
น.ส. ทัศน์ดาว หงมะณี |
ความเป็นมาของวันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา คือวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้ได้ 2 เดือน โดยแสดงปฐมเทศนาโปรดพระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ได้แก่ พระโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นมคธ จนพระอัญญาโกณฑัญญะ ได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา จึงถือว่าวันนี้มีพระรัตนตรัยครบองค์สามบริบูรณ์ครั้งแรกในโลก คือ มีทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนพุทธศักราช 45 ปี |
ผู้แสดงความคิดเห็น น.ส. ทัศน์ดาว หงมะณี (Tasdow2011-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-07-11 17:14:02 | |
ความคิดเห็นที่ 147 (3653407) | |
ลภัสสร ศรีทอง | วันอาสาฬหบูชา 2557 ตรงกับวันศุกร์ ที่ 11 กรกฎาคม หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน โดยวันอาสาฬหบูชา ซึ่งก็คือวันที่พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงธรรมเทศนา หรือหลักธรรมที่ทรงตรัสรู้เป็นครั้งแรก |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลภัสสร ศรีทอง วันที่ตอบ 2014-07-11 14:55:41 | |
ความคิดเห็นที่ 146 (3653318) | |
นาย วีระศักดิ์ ศรีทอง | ความเป็นมาของวันเข้าพรรษา
ในเรื่องความเป็นมาของวันเข้าพรรษา ถ้าว่ากันตามประวัติย่อๆ คือ ในยุคต้นพุทธกาล ก็ยังไม่มีการเข้าพรรษา เพราะฉะนั้นตลอดทั้งปี เมื่อพระภิกษุมีความเห็นว่าท่านควรจะไปเทศน์ ไปสอนญาติโยมที่ไหนได้ ท่านพอมีเวลา ท่านก็จะไป หรือไม่ได้ไปเทศน์ไปสอนใคร ถ้าเห็นว่าที่ไหนมันเงียบ มันสงัดดี เหมาะในการที่จะไปบำเพ็ญภาวนา ทำสมาธิ(Meditation)ของท่าน ท่านก็จะไป ซึ่งแน่นอน ส่วนมากก็จะอยู่ในเขตที่เป็นป่าเป็นเขา ไกลๆออกไปจากตัวเมือง หรือว่าต้องผ่านไปในชนบทนั่นเอง จากการที่ท่านต้องไปอย่างนี้ เนื่องจากในฤดูฝนที่เขาทำไร่ทำนากันอยู่นั้น บางครั้ง ข้าวกล้าของเขาก็เพิ่งหว่านลงไปในนา มันเพิ่งงอกออกมาใหม่ๆ บางทีก็ดูเหมือนหญ้า พระภิกษุก็เดินผ่านไป นึกว่ามันเป็นดงหญ้า ก็เลยย่ำข้าวกล้าของเขาไป ซึ่งก็ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน เขาก็มาฟ้องพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าพระไปย่ำข้าวของเขาที่ปลูกเอาไว้ หว่านเอาไว้ นกกาฤดูฝนมันยังอยู่กับรังของมัน พระทำไมไม่รู้จักพักบ้าง /ประวัติวันเข้าพรรษา......
นาย วีระศักดิ์ ศรีทอง |
ผู้แสดงความคิดเห็น นาย วีระศักดิ์ ศรีทอง (pon00014-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-07-11 10:22:53 | |
ความคิดเห็นที่ 145 (3653317) | |
นาย วีระศักดิ์ ศรีทอง |
ความเป็นมาของวันอาสาฬหบูชาความเป็นมาของวันอาสาฬหบูชานั้น เริ่มต้นจากในครั้งพุทธกาล หลังจากพระศาสดาตรัสรู้ในวันเพ็ญเดือน 6 แล้วทรงเสวยวิมุตติสุข คือ ความสุขจากการหลุดพ้นเป็นเวลา 7 สัปดาห์ หลังจากนั้นทรงพระปริวิตกว่า ธรรมที่พระองค์ตรัสรู้นี้ลึกซึ้งมาก หมู่สัตว์ที่ยังมีกิเลสหนายากที่จะรู้เห็นตามได้ ท้าวสหัมบดีพรหมทรงทราบความปริวิตกของพระองค์ จึงมาทูลอาราธนาให้พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรม เพราะสัตว์ที่มีธุลีในจักษุน้อยยังมีอยู่......... นาย วีระศักดิ์ ศรีทอง |
ผู้แสดงความคิดเห็น นาย วีระศักดิ์ ศรีทอง (pon00014-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-07-11 10:19:19 | |
ความคิดเห็นที่ 144 (3651163) | |
น.ส.เบญจมาภรณ์ ทัศน์ไทย | ซอยนาทอง 1 ถนนพหลโยธิน 15 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.10400 29 มิถุนายน 2257 เรื่อง ขอลาป่วยเนื่องจากเป็นไข้หวัด เรียน อาจารย์ที่ปรึกษา ดิฉัน นางสาวเบญจมาภรณ์ ทัศน์ไทย นักศึกษา ม.ต้น ศรช. มะกอกกลางสวน รหัสนักศึกษา 571200344 มีความประสงค์จะขอลาป่วยเพื่อพักเพื่อดูอาการ แล้วจะกลับมาเรียนตามปกติในวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม 2557 จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือ นางสาวเบญจมาภรณ์ ทัศน์ไทย |
ผู้แสดงความคิดเห็น น.ส.เบญจมาภรณ์ ทัศน์ไทย (siaemkan-dot-9999-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-07-06 08:18:37 | |
ความคิดเห็นที่ 143 (3651162) | |
น.ส.ดุจเดือน ชาติสุวรรณ รหัส 571200353 | ห้องที่7 186 ซอย 3 หลังวัดไผ่ตัน ถนนพหลโยธิน15 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.10400 29 มิถุนายน 2557 เรื่อง ขอลากิจเพื่อเดินทางกลับต่างจังหวัด เรียน อาจารย์ที่ปรึกษา ดิฉัน นางสาวดุจเดือน ชาติสุวรรณ นักศึกษา ม.ต้น ศรช.มะกอกกลางสวน รหัสนักศึกษา 571200353 มีความประสงค์จะขออนุญาติลากิจเพื่อเดินทางกลับต่างจังหวัดเพื่อไปพักผ่อนกับครอบครัว ในวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม 2557 จึงเรียนมาให้ทราบล่วงหน้า แล้วจะกลับมาเรียนตามปกติในวันอาทิตย์ถัดไป จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือ นางสาวดุจเดือน ชาติสุวรรณ ขอรับรองว่าเป็นเรื่องจริง ( นายภิรมย์ จันทร์วรรณ์) ผู้ปกครอง
|
ผู้แสดงความคิดเห็น น.ส.ดุจเดือน ชาติสุวรรณ รหัส 571200353 (dutduaenc-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-07-06 07:56:59 | |
ความคิดเห็นที่ 142 (3651146) | |
เฉลิมเกียรติ์ รักขภูมิพันธ์ | 72 ซอย วัฒนโยธิน ถนน รางน้ำ แขวง ถนนพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เรื่อง ขอลากิจ เรียนอาจารย์ที่ปรึกษา เนื่องจากกระผม นายเฉลิมเกียรติ รักขภูมิพันธ์ นักศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น ศรช.มะกอกกลางสวน มีความจำเป็นต้องหยุดเรียนในวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 อันเนื่องมาจากมีเหตุจำเป็นที่ต้องไปทำธุระต่างจังหวัด กระผมจึงมีความจำเป็นที่จะต้องหยุดเรียนเพื่อไปทำธุระ เป็นเวลา 3 วัน คือวันที่ 6 – 8 กรกฏาคม พศ.2557 และหลังจากนี้กระผมจะมาทำการเรียนตามปกติ จึงเรียนมาเพื่อทราบ ด้วยความเคารพอย่างสูง นาย เฉลิมเกียรติ รักขภูมิพันธ์
|
ผู้แสดงความคิดเห็น เฉลิมเกียรติ์ รักขภูมิพันธ์ วันที่ตอบ 2014-07-05 23:04:49 | |
ความคิดเห็นที่ 141 (3651131) | |
อนนท์ แสงนวน | 270/66 ซ. เพิ่มสิน ถ.ประชาสงเคราะห์ 27 แขวดินแดง เขตดินแดง กทม 10400 5 กรกฎาคม 2557 เรียนคุณครูประจำชั้นมัถธยมศึกษาตอนต้น ปีที่ 1/57 เนื่องจากกระผมป่วยเป็นไข้หวัด จึงไม่สามารถมาเรียนได้ตามปกติ จึงขอลาป่วย 1 วัน คือ วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เมื่อกระผมป่วยแล้ว จะมาเรียนตามปกติ จึงเรียนมาเพื่อทราบ ด้วยความเคารพอย่างสูง นายอนนท์ แสงนวน ขอรับรองว่าเป็นความจริง สนันชัย (ผู้ปกครอง)
|
ผู้แสดงความคิดเห็น อนนท์ แสงนวน วันที่ตอบ 2014-07-05 20:57:54 | |
ความคิดเห็นที่ 140 (3651120) | |
น.ส. ธัญสุดา แก้วเข็มทอง | 319 ถ.อโศก-ดินแดง ข.ราชเทวี กทม 10400 6 กรกฎาคม 2557 เรียนคุณครูประจำชั้นมัถธยมศึกษาตอนต้น ปีที่ 1/57 เนื่องจากดิฉันป่วยเป็นไข้หวัด จึงไม่สามารถมาเรียนได้ จึงขอลาป่วย 1 วัน คือ วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เมื่อดิฉันหายป่วยแล้ว จะมาเรียนตามปกติ ด้วยความเคารพอย่างสูง น.ส.ธัญสุดา แก้วเข็มทอง ขอรับรองว่าเป็นความจริง นาย ธนกริช แก้วเข็มทอง (ผู้ปกครอง)
|
ผู้แสดงความคิดเห็น น.ส. ธัญสุดา แก้วเข็มทอง วันที่ตอบ 2014-07-05 20:35:00 | |
ความคิดเห็นที่ 139 (3650999) | |
ชัยวัฒน์ ง่วนกิม | คอนโดลาเมซอง88ชั้น6 88/80 ซอยประดิพัทธ์25 ถนน ประดิพัทธ์ แขวง สามเสนใน เขต พญาไท กรุงเทพ 10400
4 กรกฎาคม 2557 เรียน อาจารย์ที่ปรึกษา เนื่องจากกระผมมีความจำเป็นต้องเดินทางไปศรีสะเกษระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน ถึงวันที่ 10 กรกฎาคม 2557 ทำให้ต้องหยุดเรียนระหว่าง 30 มิถุนายน ถึงวันที่ 10 กรกฎาคม เป็นเวลา 11 วัน จึงเรียนมาเพื่อขออนุญาตหยุดเรียนในวันดังกล่าว
ด้วยความเคารพอย่างสูง ชัยวัฒน์ ง่วนกิม ขอรับรองว่าเป็นความจริง
(ลายมือชื่อ) ทองอยู่ ง่วนกิม (ผู้ปกครอง) |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชัยวัฒน์ ง่วนกิม (tum_raoron-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-07-04 21:19:09 | |
ความคิดเห็นที่ 138 (3650947) | |
นางสาว ศศิธร เอี่ยมเจริญ | 40/294 ซอย17 ถนน ไทยรามัญ แขวง สามวาตะวันตก เขต คลองสามวา จังหวัด กรุงเทพมหานคร 10510 4 กรกฎาคม 2557 เรียน คุณครูประจำกลุ่ม ศรช วัดมะกอกกลางสวน เรื่อง ขอลากิจ เนื่องจากดิฉัน นางสาว ศศิธร เอี่ยมเจริญ ขอลากิจ เพราะดิฉันต้องไปงานบวชของพี่ชายที่ต่างจังหวัด จึงขอแจ้งให้อาจารย์รับทราบว่าดิฉันขอลากิจ วันที่ 6 กรกฎาคม 2557 แล้วจะกลับมาเรียนตามปกติ จึงเรียมมาให้ทราบ ด้วยความเคารพอย่างสูง นางสาว ศศิธร เอี่ยมเจริญ |
ผู้แสดงความคิดเห็น นางสาว ศศิธร เอี่ยมเจริญ (sasithon199677-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-07-04 16:50:41 | |
ความคิดเห็นที่ 137 (3650060) | |
น.ส. ทัศน์ดาว หงมะณี | 53 ชั้นB 708 ซอยเทเศร์1 ถนนกรุงเกษม แขวงบางขุมพรม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10100
2 กรกฏาคม 2557
เรียน อาจารย์ที่ปรึกษา เนี่องด้วยดิฉันมีความจำเป็นต้องเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 5 กรกฎาคม ถึงวันที่ 11 กรกฎาคม 2557 ทำให้ต้องหยุดเรียนระหว่าง 5 กรกฎาคม ถึงวันที่ 11 กรกฎาคม 2557 เป็นเวลา 7 วัน จึงเรียนมาเพื่อขออนุญาตหยุดเรียนในวันดังกล่าว
ด้วยความเคารพอย่างสูง ทัศน์ดาว หงมะณี ขอรับรองว่าเป็นความจริง
(ลายมือชื่อ) สุดใจ หงมะณี (ผู้ปกครอง)
|
ผู้แสดงความคิดเห็น น.ส. ทัศน์ดาว หงมะณี (Tasdow2011-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-07-02 17:03:59 | |
ความคิดเห็นที่ 136 (3650058) | |
นางสาว ลภัสสร ศรีทอง | 51/1 ซอบราชวิถี26 ถนนราชวิถี แขวงดุสิต เขตดุสิต ก.ท.ม 10300 ๒๙ มิถุนายน ๒฿฿๗ เรื่อง ลาป่วย เรียน อาจายร์ที่ปรึษา ข้าพเจ้า นางสาว ลภัสสร ศรีทอง นักศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น ศรข มะกอกกลางสวน รสัหประจำตัว 5622000580 ไม่สามารถไปเรียนตามปกติได้ เนื่องจาก เป็นลำไส้อักเสบ ดังนั้นดิฉันจึงขอลาป่วยตั้งแต่ วันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เป็นเวลา ๕ วัน ถ้าหายจะกลับไปเรียนตามปกติ จึงเรียนมาเพื่อให้ทราบ ด้วยความเคารพอย่างสูง นางสาว ลภัสสร ศรีทอง ขอรับรองว่าเป็นจริง นาง พิทญา ละออ"ทอง (ผู้ปกครอง)
|
ผู้แสดงความคิดเห็น นางสาว ลภัสสร ศรีทอง วันที่ตอบ 2014-07-02 16:49:51 | |
ความคิดเห็นที่ 135 (3650007) | |
ปัญญา ไกรสุวรรณสาร | ง.86/96 ถ.ดาวดึงส์ ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 60000
วันที่ 29 มิถุนายน 2557 เรื่อง ลาป่วย เรียน อาจารย์ที่ปรึกษา ข้าพเจ้า นาย ปัญญา ไกรสุวรรณสาร นักศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น ศรช มะกอกกลางสวน รหัสประจำตัวนักศึกษา5622000012 ไม่สามารถมาเรียนได้ตามปกติ เนื่องจาก ต้องเดินทางไปร่วมงานบวชญาติที่จ.ระยอง ดังนั้น ช้าพเจ้าจึงขออนุญาติลากิจ โดยขอหยุดเรียนตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2557 ถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2557 รวมเป็นเวลา 4วัน เมื่อครบกำหนดแล้วจะกลับมาเรียนตามปก จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุญาติ
ด้วยความเคารพอย่างสูง นาย ปัญญา ไกรสุวรรณสาร ขอรับรองว่าเป็นจริง น.ส.พรนารา กาญจนโรจน์ไพศาล (ผู้ปกครอง) |
ผู้แสดงความคิดเห็น ปัญญา ไกรสุวรรณสาร (bigbost0910-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-07-02 13:44:26 | |
ความคิดเห็นที่ 134 (3649963) | |
สมพงษ์ ปานด้วง |
184/4 ซอยลือชา ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
2 กรกฎาคม 2557
เรียน อาจาร์ยที่ปรึกษา เนื่องด้วยผมป่วยเป็นไข้หวัด คลื่นไส้ อาเจียน เพลีย ไม่มีแรง ทำให้ไม่สามารถมาเรียนได้ จึงขอลาป่วยหยุดเรียน ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2557 ถึงวันที่ 4 กรกฎาคม 2557 เป็นเวลา 3 วัน จึงเรียนมาเพื่อขออนญาตหยุดเรียนใวันดังกล่าว
ด้วยความเคารพอย่างสูง สมพงษ์ ปานด้วง
ขอรับรองว่าเป็นความจริง (ลายมือชื่อ) จุไรรัตน์ ปานด้วง (ผู้ปกครอง) |
ผู้แสดงความคิดเห็น สมพงษ์ ปานด้วง วันที่ตอบ 2014-07-02 12:11:21 | |
ความคิดเห็นที่ 133 (3649960) | |
สมพงษ์ ปานด้วง |
184/4 ซอยลือชา ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหา0400นคร 1
2 กรกฎาคม 2557 เรียน อาจาร์ยที่ปรึกษา เนื่องด้วยผมป่วยเป็นไข้หวัด คลื่นไส้ อาเจียน เพลีย ไม่มีแรง ทำให้ไม่สามารถมาเรียนได้ จึงขอลาป่วยหยุดเรียน ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2557 ถึงวันที่ 4 กรกฎาคม 2557 เป็นเวลา 3 วัน จึงเรียนมาเพื่อขออนญาตหยุดเรียนในวันดังกล่าว ด้วยความเคารพอย่างสูง สมพงษ์ ปานด้วง ขอรับรองว่าเป็นความจริง (ลายมือชื่อ) จุไรรัตน์ ปานด้วง (ผู้ปกครอง) |
ผู้แสดงความคิดเห็น สมพงษ์ ปานด้วง วันที่ตอบ 2014-07-02 12:08:34 | |
ความคิดเห็นที่ 132 (3649958) | |
สมพงษ์ ปานด้วง |
184/4 ซอยลือชา ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
2 กรกฎาคม 2557
เรียน อาจาร์ยที่ปรึกษา เนื่องด้วยผมป่วยเป็นไข้หวัด คลื่นไส้ อาเจียน เพลีย ไม่มีแรง ทำให้ไม่สามารถมาเรียนได้ จึงขอลาป่วยหยุดเรียน ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2557 ถึงวันที่ 4 กรกฎาคม 2557 เป็นเวลา 3 วัน จึงเรียนมาเพื่อขออนญาตหยุดเรียนในวันดังกล่าว
ด้วยความเคารพอย่างสูง สมพงษ์ ปานด้วง
ขอรับรองว่าเป็นความจริง (ลายมือชื่อ) จุไรรัตน์ ปานด้วง (ผู้ปกครอง)
|
ผู้แสดงความคิดเห็น สมพงษ์ ปานด้วง วันที่ตอบ 2014-07-02 12:06:37 | |
ความคิดเห็นที่ 131 (3649723) | |
น.ส.เดือนเพ็ญ สุทธิประภา | 411 ถนน สุธิสาร แขวงสามเสน เขตพญาไท จังหวัด กรุงเทพฯ 10400 วันที่ 1 กรกฏาคม 2557 เรื่อง ลาป่วย เรียน อาจารย์ ข้าพเจ้า นาย รพีพัฒน์ ลัดดาวัลย์ นักศึกษามัธยมต้น เนื่องจาก กระผมป่วยเป็นไข้หวัด ขอหยุดเรียน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม 2557 ถึง 2กรกฏาคม 2557 เรียนมาเพื่อ ขออนุญาตอาจารย์ที่เคารพ ด้วยความเคารพอย่างสูง นาย รพีพัฒน์ ลัดดาวัลย์ |
ผู้แสดงความคิดเห็น น.ส.เดือนเพ็ญ สุทธิประภา (rapeepat_isaac-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-07-01 11:57:03 | |
ความคิดเห็นที่ 130 (3649639) | |
นางสาว สุวรรณา จันทร์เจ๊ก | 72 ซ. วัฒนโยธิน ถ.รางน้ำ แขวง ถนนพญาไท เขต ราชเทวี กทม. 10400 30 มิถุนายน 2557 เรื่อง ขอลากิจ เรียน อาจารย์ที่ปรึกษา เนื่องจากดิฉัน นางสาว สุวรรณา จันทร์เจ๊ก นักศึกษาม.ต้น ศรช.มะกอกกลางสวน มีความจำเป็นต้องหยุดเรียนในวันที่6 กรกฎาคม พ.ศ.2557 อันเนื่องมาจากมารดาของดิฉันป่วยหนัก ขณะนี้ได้ทำการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชวิถี ดิฉันจึงมีความจำเป็นต้องหยุดเรียน เพื่อไปเฝ้าดูอาการเป็นเวลา1 วัน คือวันที่ 6 กรกฎาคม 2557 และหลังจากนี้ ดิฉันจะมาทำการเรียนตามปกติ จึงเรียนมาเพื่อทราบ ด้วยความเคารพอย่างสูง นางสาว สุวรรณา จันทร์เจ๊ก |
ผู้แสดงความคิดเห็น นางสาว สุวรรณา จันทร์เจ๊ก วันที่ตอบ 2014-06-30 22:03:56 | |
ความคิดเห็นที่ 129 (3649507) | |
น.ส.บุญรัตน์ พุกกะจันทร์ | 222/79 ม.3 ห้อง 2/2ซ.ลาดกระบัง40 ถ.อ่อนนุช เขต ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520 29 มิถุนายน 2557 เรียน อาจารย์ที่ปรึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นปีที่1/57 เนื่องด้วยดิฉันมีความจำเป็นที่ต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัด ขอหยุดเรียน ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2557 ถึงวันที่ 6 กรกฤาคม 2557 เป็นระยะเวลา 7 วัน จึงเรียนมาเพื่อขออนุญาตหยุดเรียนในวันดังกล่าว ด้วยความเคารพอย่างสูง บุญรัตน์ พุกกะจันทร์ ขอรับรองว่าเป็นเรื่องจริง ผ่องศรี ปรัชากิจ (ผู้ปกครอง) |
ผู้แสดงความคิดเห็น น.ส.บุญรัตน์ พุกกะจันทร์ วันที่ตอบ 2014-06-30 13:04:35 | |
ความคิดเห็นที่ 128 (3649252) | |
นาย วีระศักดิ์ ศรีทอง | 152 ถ.ปัญญาอินทรา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510
วันที่ 29 มิถุนายน 2557 เรื่อง ลาป่วย เรียน อาจารย์ที่ปรึษา ข้าพเจ้า นาย วีระศักดิ์ ศรีทอง นักศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น ศรช มะกอกกลางสวน รหัสประจำตัวนักศึกษา 571-200-0063 มีความประสงค์ ขอลาป่วยเนื่องจากขับรถมอเตอร์ไซต์พลิกคว่ำขาข้างขวาหัก จึงขอลาหยุดเป็นระยะเวลา1เดือนเต็ม ตั้งแต่ 29 มิถุนายน 2557 ถึง 29 กรกฎาคม 2557 ถ้ากะผมหายจะกลับเข้าเรียนตามปกติ จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความเคารพอย่างสูง นาย วีระศักดิ์ ศรีทอง
|
ผู้แสดงความคิดเห็น นาย วีระศักดิ์ ศรีทอง (pon00014-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-06-29 18:14:53 | |
ความคิดเห็นที่ 127 (3649246) | |
นางสาว ลภัสสร ศรีทอง | 51/1 ถนนราชวิถี ซงราชวิถี26 แขวงสวนจิตรดา เขต ดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 เรื่อง การขอลาป่วย เรียน อาจารย์ที่ปรึษา ข้าพเจ้า นางสาว ลภัสสร ศรีทอง นักศึกษา ม.ต้น ศรช มะกอกกลางสวน รหัสประจำตัวนักศึกษา 5622000 มีความประสงค์ ขอลาป่วยเนื้องจากเป็นโรคกระเพาะอักเสบ จึงขอลาหยุดเป็น เวลา 5 วัน ตั้งแต่วัน อาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2557 ถ้าดิฉันหาย จะกลับมาเรียนตามปกติ ด้วยความเคารพอย่างสูง นางสาว ลภัสสร ศรีทอง
|
ผู้แสดงความคิดเห็น นางสาว ลภัสสร ศรีทอง วันที่ตอบ 2014-06-29 17:16:52 | |
ความคิดเห็นที่ 126 (3649239) | |
น.ส.ดุจเดือน ชาติสุวรรณ รหัส 571200353 | ห้องที่7 186 ซ.3 วัดไผ่ตัน ถ.พหลโยธิน15 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.10400 29 มิถุนายน 2557 เรื่อง ขอลากิจกลับต่างจังหวัดเพื่อไปพักผ่อน เรียน อาจารย์ที่ปรึกษา ข้าพเจ้า นางสาวดุจเดือน ชาติสุวรรณ นักศึกษา ม.ต้น ศรช.มะกอกกลางสวน รหัสนักศึกษา 571200353 มีความประสงค์ขออนุญาติลากิจเพื่อเดินทางกลับต่าง จังหวัดเพื่อไปพักผ่อนกับครอบครัว ในวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม 2557 ข้าพเจ้าจึง เรียนอาจารย์ล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการเช็กรายชื่อนักศึกษามา จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือ นางสาวดุจเดือน ชาติสุวรรณ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น น.ส.ดุจเดือน ชาติสุวรรณ รหัส 571200353 (dutduaenc-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-06-29 16:30:21 | |
ความคิดเห็นที่ 125 (3482445) | | |
นเรศ ทองมือ |
การปกป้องสิทธิผู้บริโภคด้วยตนเอง
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น นเรศ ทองมือ วันที่ตอบ 2013-06-22 01:11:02 | ||
ความคิดเห็นที่ 124 (3480607) | |
นงเยาว์ นามรักษ์ | ผู้บริโภคควรทราบถึงประโยชน์และคุณภาพที่เป็นจริงก่อนซื้อสินค้า |
ผู้แสดงความคิดเห็น นงเยาว์ นามรักษ์ (nongyaonamrak-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-06-17 15:45:35 | |
ความคิดเห็นที่ 123 (3479965) | |
น.ส.ธัญสุดา แก้วเข็มทอง | เข้ามาอ่านแล้วคะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น น.ส.ธัญสุดา แก้วเข็มทอง วันที่ตอบ 2013-06-15 11:23:01 | |
ความคิดเห็นที่ 122 (3479964) | |
น.ส บุญรัตน์ พุกกะจันทร์ | เข้ามาอ่านแล้วนะค่ะอาจาร์
|
ผู้แสดงความคิดเห็น น.ส บุญรัตน์ พุกกะจันทร์ วันที่ตอบ 2013-06-15 11:21:35 | |
ความคิดเห็นที่ 121 (3479960) | |
น.ส ศิราณี สามารถทิพย์ | อาจารย์เสื้อสีชมพูได้รึยังคะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น น.ส ศิราณี สามารถทิพย์ วันที่ตอบ 2013-06-15 10:53:10 | |
ความคิดเห็นที่ 120 (3479581) | |
ณัฐรุจา สุวรรณคำ |
เครื่องหมายรับรองคุณภาพระบบตรวจสอบสารพิษ
สัญลักษณ์การผลิตที่ปลอดภัย
|
ผู้แสดงความคิดเห็น ณัฐรุจา สุวรรณคำ วันที่ตอบ 2013-06-14 10:18:30 | |
ความคิดเห็นที่ 119 (3479397) | |
วิชุดาเมืองจันทร์ |
ผู้บริโภคต้องดูฉลากของสินค้าเพื่อเป็นข้อมูลในการเปีรยบเทียบสินค้าแต่ละยี่ห้อกอ่นตัดสินใจเลือกสินค้า |
ผู้แสดงความคิดเห็น วิชุดาเมืองจันทร์ วันที่ตอบ 2013-06-13 22:55:28 | |
ความคิดเห็นที่ 118 (3477879) | |
วีร์สุดา แตงงาม | ความหมายของ "ผู้บริโภค" คือ ผู้ซื้อหรือผู้ได้รับบริการจากผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้ซึ่งได้รับการเสนอหรือชักชวนจากผู้ประกอบธุรกิจ เพื่อให้ซื้อสินค้าหรือรับบริการ และหมายความรวมถึงผู้ใช้สินค้าหรือผู้ได้รับบริการจากผู้ประกอบธุรกิจโดยชอบ แม้มิได้เสียค่าตอบแทนก็ตาม ก่อนและหลังซื้อสินค้าหรือใช้บริการ อย่าลืม 1. ตรวจสอบชื่อ / ที่อยู่ของผู้ขาย 2. ตรวจสอบและทดลองสินค้าก่อนซื้อ 3. อ่านสัญญาให้รอบคอบ 4. อ่านฉลากสินค้าให้เข้าใจ 5. เก็บหลักฐานให้ดี เช่น ใบสัญญา ใบเสร็จรับเงิน, ใบรับประกัน, แผ่นพับโฆษณา
|
ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์สุดา แตงงาม วันที่ตอบ 2013-06-11 08:12:26 | |
ความคิดเห็นที่ 117 (3476068) | |
น.ส ศิราณี สามารถทิพย์ | อาจารย์เมื่ออาทิตย์ที่แล้วหนูไม่ได้ไปเรียน มีก.ร.ตมั้ยคะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น น.ส ศิราณี สามารถทิพย์ วันที่ตอบ 2013-06-05 11:36:31 | |
| 1 2 3 4 › » |
| Visitors : 416642 |
 |